'ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม' สู้เพื่อฝันอยาก 'โกอินเตอร์' กับลุคใหม่แนว K-POP

KoNaMi

       
               
                       
                                ถ้ามองผ่านๆ หลายคนก็จะคงจะกรี๊ดและทักว่า เอ้ย! นั้น ‘นิชคุณ 2PM’ นี่ ซึ่งถ้ามองดีๆ จริงๆ แล้วไม่ใช่นักร้องเกาหลีที่ไหน แต่เป็นนักร้องไทยที่โด่งดังมีแฟนคลับล้นหลาม ทั้งไทยและเทศไม่แพ้นักร้องเกาหลีเลย ‘ณัฏฐ์ ทิวไผ่งาม’...

ด้วยบุคลิกที่เปลี่ยนไปทั้งเสื้อผ้าหน้าผมการแต่งตัวที่ออกแนวเกาหลีเอามากๆ ‘ณัฏฐ์’ เป็นปลื้มสุดที่ได้มีโอกาสร่วมงานกับทาง KPS World ที่ประเทศเกาหลี และได้กระแสตอบรับที่ดีมาก จนชื่อของเจ้าตัวติดยอดค้นหาอันดับที่ 4 ในเว็ปไซน์ที่เกาหลีกันเลยทีเดียว งานนี้จะได้โกอินเตอร์หรือเปล่านั้นยังไม่รู้ แต่ที่แน่ๆ แว่วมาแล้วว่าทางนู้นเขาสนใจอย่างแรง ว้าว! คุณภาพ ไทยแท้นิยมกันเกือบทั้งเอเชียเลยจริงๆ ทั้งนี้หนุ่มณัฏฐ์ยังอัพเดทผลงานให้ฟังกันอีกด้วย ไม่ว่าจะงานเพลง ละครทีวี ละครเวที คิวแน่นยาวเป็นหางว่าว ซึ่ง ‘ณัฏฐ์’ ขอ สารภาพว่าเป็นปลื้มสุดๆ ที่ได้รู้ว่าทุกวันนี้ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่และโอกาสวิ่งเข้ามาหาเราเอง ทุกครั้งที่ได้ยินว่าจะมีผลงานต่างๆ จะได้ไปต่างประเทศเป็นเหมือนความฝันและกำลังใจที่ทำให้สู้ต่อไป เพื่อที่จะไปถึงตรงนั้นให้ได้และทุกก้าวก็จะทำให้ดีที่สุด

Q : มีผลงานอะไรอัพเดทให้แฟนๆ ติดตามกันบ้าง?
A : “ตอนนี้ก็ซ้อมคอนเสิร์ตอยู่ครับ แสดงวันที่ 29 ม.ค. ครับ ชื่อคอนเสิร์ตว่าเพื่อคนสำคัญเป็นคอนเสิร์ตกึ่งๆ การกุศลครับ เพราะว่ารายได้เอาไปช่วยเหลือผู้ประสบภัยน้ำท่วมครับ ตามโรงเรียนประมาณนี้ครับ เสร็จแล้วก็จะมีละครเวทีเดือน มี.ค. ชื่อปริศนา เดอะมิวสิคัล ก็เริ่มทยอยซ้อมกันบ้างแล้วครับ”

Q : ละครเวทีเรื่อง ‘ปริศนา’ รับบทเป็นใคร?
A : “รับ บทเป็นประวิทย์ครับ เคยดูปริศนาตอนเด็กมากๆ แล้ว จำไม่ได้ว่าเป็นยังไง บทบาทน่ารักครับ เป็นผู้ชายเจ้าชู้นิสัยเหมือนเด็กครับ งองแง ตลกๆ หน่อยครับ จริงๆ แล้วคาแร็คเตอร์ก็ตรงกับตัวผมนะครับ สนุกๆ บางทีพูดอะไรก็จะตลกๆ ครับ”

Q : ยังตื่นเต้นหรือกดดันกับการแสดงอยู่ไหม?
A : “เรา ไม่ค่อยตื่นเต้นเท่าไหร่ เพราะว่าเคยร่วมงานกับทีมนี้มาแล้ว เพลงในละครเวทีปริศนาเป็นเพลงที่แต่งใหม่หมดเลยครับ ไม่ใช่เอาเพลงเก่ามาร้อง แต่ก็ยังไม่ได้ลองซ้อมดูเลยว่าจะเป็นยังไง”

Q : ช่วงนี้เสื้อผ้าหน้าผมการแต่งตัวจะออกแนวเกาหลีมากขึ้น?
A : “ผมอยากเปลี่ยนแปลงตัวเองบ้างครับ จริงๆ แล้วแต่ตัวเราเองอยากทำอะไรก็ทำครับ”

Q : หลายคนมองว่าเหมือน ‘นิชคุณ 2PM’?
A : “ใช่ หลายคนพูดครับ คือจริงๆ ก็แค่ไปย้อมสีผมมา มีคนทักเยอะเหมือนกันครับ แต่ ณัฏฐ์ ทิว ก็คือณัฏฐ์ ทิวครับ จริงๆ ผมก็เขินๆ เหมือนกันที่มีคนทักแบบนี้”

Q : ส่วนตัวรู้สึกปลื้มและดีใจบ้างไหม?
A : “ต้องเล่าก่อนว่าผมชื่นชมพี่นิชคุณอยู่แล้วครับ เพราะว่าพี่เขาเป็นคนไทยที่ประสบความสำเร็จ มีความสามารถมาก ประทับใจอยู่แล้วครับ ถ้ามีคนทักว่าเรามีลักษณะคล้ายคนที่เราชื่นชมอยู่เราก็รู้สึกดีใจครับ”
Q : ลุคใหม่นี้มีผลต่อแนวโน้มการออกอัลบั้มที่เพลงแดนซ์มากขึ้นเลยไหม?

A : “คือ จริงๆ มีสลับกันไปครับ ทั้งเพลงช้าเพลงเร็วเพราะใจผมก็ชอบทั้งสองอย่างครับ เพลงช้าก็ชอบเพลงเร็วเต้นบ้างออกมาเรื่อยๆ ก็สนุกดีครับ”

Q : นอกเหนือจากงานเพลงหรือละครเวี ละครทีวีจะมีให้ชมกันอีกไหม?
A : “ละคร ทีวีมีอีกแน่นอนครับ แต่อยากให้อดใจรอเพราะว่ากำลังว่างๆ กันอยู่ มีติดต่อเข้ามาคราวๆ บ้าง แต่ว่าทั้งหมดทั้งปวงยังไม่มีการคอนเฟิร์มเลยยังไม่อยากพูดออกไปว่ากำลังจะ มีครับ ถ้าเกิดมีอะไรเปลี่ยนแปลงก็จะไม่ดีที่เราพูดไปก่อนแล้วครับ”

Q : มีโอกาสได้ทำอะไรหลายอย่างแบบนี้ ส่วนตัวคิดว่าประสบความสำเร็จแล้วหรือยัง?
A : “ผม คิดว่าทำได้มากกว่านี้ได้ครับ แต่ถ้าถามว่าพอใจกับสิ่งที่มีอยู่แล้วหรือยัง พอใจแล้วครับ ตั้งเริ่มคือผมประกวดเอเอฟแค่อยากเข้าบ้านเอเอฟไม่ได้คิดว่าจะมีงานละครงาน เพลงต่อเนื่องและเราได้เข้าบ้านเอเอฟเราก็พอใจตั้งแต่ตอนนั้นแล้ว ที่เหลือต่อเนื่องก็เป็นการต่อยอดไปแล้วกัน เราก็ทำทุกวันนี้ให้ดีที่สุดอยู่แล้ว แต่ก็หวังว่าภายภาคหน้าเราจะก้าวขึ้นไปเรื่อยๆ”

Q : ตอนนี้ดูลุคก็ออกแนวเกาหลีแล้ว คิดจะโกอินเตอร์บ้างไหม?
A : “คิดเหมือนกันครับ แล้วทางค่ายก็สนับสนุนเต็มที่เพราะเราเคยได้ไปทำงานที่เกาหลีมาแล้ว เคยไปถ่ายรายการ KPS World ที่เกาหลี แล้วก็เคยไปถ่ายงานที่เกาหลีบ้าง เหมือนเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีแล้วทำให้เกิดคอนเน็กชั่นทางเกาหลีกับเราด้วย โดยเฉพาะทางค่ายก็มีสัมพันธ์อันดีกับเกาหลีด้วย เขาก็มองๆ เราไว้บ้างเหมือนกันครับ แต่ไม่รู้จะเป็นไปได้มากขนาดไหน ถ้าเป็นไปได้ก็ยินดีแน่นอนครับ”

Q : มีแว่วๆ ผ่านหูเรามาบ้างไหม?
A : “ก็มีบ้างครับ เนื่องจากที่เราไปถ่ายรายการที่ KPS มานี่แหละครับ ทำให้มีอะไรต่อเนื่องมา ที่ค่ายก็ส่งไปเรียนภาษาเกาหลี ไม่แน่ใจว่าต่อไปได้ใช้ไหม แต่ว่ามีติดไว้ดีกว่า”

Q : ในใจลึกๆ คิดว่ามีสิทธิ์หรือมีแนวโน้มจะได้ร่วมงานกับทางเกาหลีไหม?
A : “โอ้ ว ตอบยากจังเลย ถ้าบอกว่ามีสิทธิ์แล้วถ้าไม่ได้ไปก็จะแปลกๆ (หัวเราะ) เอาเป็นว่าถามใจเราอยากไปไหมอยากครับ แต่ไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้วจะเป็นยังไงครับ”

Q : เพราะได้ร่วมงานกับทางเกาหลีหรือเปล่า ทำให้เราเปลี่ยนลุค?
A : “จริงๆ แล้วไม่เกี่ยวครับ ผมเป็นคนเปลี่ยนลุคอยู่แล้วครับ เรื่องที่แว่วๆ มาหรือได้ไป มันมาทีหลังแล้ว ผมเปลี่ยนทรงผมก่อนหน้านี่ไปแล้วครับ เราก็คิดถ้ามาอย่างนี้โป๊ะเช๊ะเลยพี่ (เรียกว่าถูกจังหวะพอดี) ครับ แล้วผมก็ชอบบันเทิงทางเกาหลีอยู่แล้ว ทรงผมก็ไปทางเกาหลีอยู่แล้ว แค่ยังไม่ทำสี แต่พอทำแล้วยิ่งชัดเลยครับ”

Q : การตอบรับที่เกาหลีเป็นยังไงบ้าง หลังจากที่ได้ร่วมงาน?
A : “ตื่น เต้นมากเหมือนกันเพราะว่าแฟนเกาหลี มาตามทวิตเตอร์เราก็มีครับ มีถามว่าณัฏฐ์ ทิว เมื่อไรยูจะมาเกาหลีอีกหรือเมื่อไรจะไปจีน มีแฟนคลับที่จีนด้วย มีอินโดนีเซียด้วย คือหลายชาติที่ติดตามเราอยู่ สำหรับเกาหลีช่วงที่ออกรายการและมีการออนแอร์อไปแล้ว เว็ปไซน์ที่เกาหลีก็จะมีชื่อของผมติดยอดค้นหาอันดับที่ 4 เลย ครับ (ยิ้ม) เหมือนคนเขาแบบ เฮ้ย คนนี้ใคร ค้นหาชื่อเราแต่สะกดเป็นภาษาเกาหลีครับ รายการตั้งให้ว่า นา ทิว เหมือนณัฏฐ์ ทิว แต่ว่าสะกดด้วยเกาหลีแล้วจะอ่านว่า นา ทิว”

Q : เรียกได้ว่ามีแฟนคลับล้นหลามมากเลยทีเดียว?
A : “เอาเป็นว่าผมอาจจะไม่เรียกว่าเป็นแฟนคลับ เพราะเขาจะไม่ได้รู้ผมงานเราจริงจัง แต่เขารู้จักเราแล้วบ้าง ในบางกลุ่มบางคนครับ”

Q : เป็นปลื้มสุดๆ กับกระแสในต่างประเทศ?
A : “ปลื้ม มากครับ เรารู้สึกว่าทุกๆ วันที่เราก้าวเข้ามาในวงการนี้ เราค่อยๆ ก้าว จากเด็กเอเอฟที่ชนะ แล้วค่อยมีเพลง มีละคร เริ่มเล่นละครเวที สุดท้ายมีคนต่างชาติที่รู้จักเรา ผมรู้สึกว่าเส้นทางเดินอันนี้ของเรายังได้ย่ำอยู่กับที่นะ เราก้าวไปเรื่อยๆ ถึงแม้ว่าไม่ใช่ก้าวใหญ่โตที่เปรี้ยงเลย แต่เราก็ไม่ได้ย่ำอยู่กับที่ทำให้เรารู้สึกดีใจครับ”

Q : ขอถามหน่อย จริงๆ หวังอยากจะโกอินเตอร์บ้างไหม?
A : “ใช่คำว่าเป็นความฝันดีกว่าครับ ผมไม่รู้คำว่าหวังจะดูทะเยอทะยานไปไหม แต่เป็นเหมือนความฝันที่วันนึงเราจะได้ต่อยอดไปถึงต่างชาติครับ เพราะว่าทำให้เรารู้สึกประสบความสำเร็จในอีกระดับนึงครับ”

Q : สุดท้ายแล้วอะไรเป็นจุดมุ่งหมายที่แท้จริงของการทำงานทุกวันนี้?
A : “เมื่อ ก่อนผมเคยวางเป้าว่าอยากเข้าบ้านเอเอฟ แล้วผมก็ได้เข้า แต่ขอสารภาพว่าหลังจากที่เข้าบ้านแล้วยังไม่ได้วางเป้าไว้ว่าอันนี้เราจะไป ให้ถึงให้ได้ แต่ทุกวันนี้โอกาสวิ่งเข้ามาหาเราเอง ผมไม่ได้มองไกล แต่ทุกครั้งที่มองใกล้ๆ คือทุกก้าวจะทำให้ดีที่สุด แล้วทุกครั้งที่ได้ยินแว่วมาว่าเราจะมีละคร มีละครเวที มีแว่วได้ไปต่างประเทศ เป็นเหมือนความฝันและกำลังใจที่ทำให้เราสู้ต่อไปเพื่อที่เราจะไปถึงตรงนั้น ให้ได้ก็ดีเหมือนกันครับ”.
 
                                       
ขอบคุณข่าวจาก: ไทยรัฐออนไลน์
ขอบคุณ Plugin ดีๆจาก อสังหา.ไทย - ข่าวอสังหาทั่วไทย
ข่าวเด่น - คลองสามวา, คลองเตย, ดอนเมือง,ทวีวัฒนา